Posts Tagged ‘ กิจกรรม ’

กิจกรรมยามเช้า..ของทุกๆวันอาทิตย์

เช้าวันอาทิตย์ มีกิจกรรมอะไรเอ่ยใครทราบบ้างคะ?? เฉลย…แต่น แตน แต๊น เด็กๆไปเรียนคริสตศาสนาที่โบสถ์ค่ะ

ผู้เขียนเป็นชาวพุทธ และยังคงเป็นชาวพุทธจนปัจจุบันนี้ ถึงแม้จะเข้ามาอยู่ในครอบครัวชาวแคทธอลิกก็ตามค่ะ สามีผู้เขียนเป็นชาวแคทธอลิก เราสองคนไม่มีการถกเถียงอะไรเกี่ยวกับการนับถือศาสนา และยังเชื่อว่าการที่บุตรชายของเราซึ่งนับถือศาสนาคริสต์ตามพ่อและคุณปู่คุณย่า มีพ่อและแม่ที่นับถือคนละศาสนานั้นเป็นเรื่องที่ดียิ่ง ลูกของเราจะได้ซึบซับความคิดความเชื่อ การปฏิบัติต่างๆของทั้งสองศาสนา และเข้าใจได้ดีว่าต่างศาสนานั้นก็สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสมดุล เป็นตัวอย่างที่ดีในเรื่องของโลกาภิวัตน์ หรือโลกไร้พรมแดนนั่นเอง ด้วยความที่เขาเป็นลูกครึ่ง ซึมซับความคิด และขนบธรรมเนียมของฝั่งตะวันตก และฝั่งตะวันออกมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องธรรมชาติของครอบครัวเรา คือความผสมกลมกลืนของโลกตะวันตกและโลกตะวันออก เมื่อไปเยี่ยมครอบครัวที่เมืองไทย พวกเราก็จะเข้าวัด กราบพระ ขอคุณพระคุ้มครอง เมื่อเราอยู่บ้านที่อิตาลี เราก็เข้าโบสถ์ร่วมพิธีต่างๆด้วยกัน เคยมีคนถามมากอยู่เหมือนกันค่ะว่า ไม่ต้องเปลี่ยนไปนับถือคริสต์หรอกหรือ ผู้เขียนก็จะตอบเสมอว่า ไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนเลยค่ะ ครอบครัวเราเชื่ออยู่แล้วว่า ทุกๆศาสนาก็เหมือนกัน ไม่ได้แบ่งแยกว่าฉันเป็นพุทธ เธอเป็นคริสต์

ที่ประเทศอิตาลีนี้ ศาสนาเข้ามามีบทบาทในสังคมและการเมืองสูงพอสมควรเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆในยุโรปค่ะ เนื่องจากรัฐวาติกันมีพื้นที่อยู่ภายในประเทศอิตาลี ผู้เขียนไม่ค่อยอยากเข้าเรื่องให้ลึกซึ้งเกินไป เพราะเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก ต่างคนก็ย่อมนานาจิตตัง ผู้เขียนจะเล่าถึงกิจกรรมทั่วๆไปเท่านั้นนะคะ เมื่อถึงวัยเข้าเรียน เด็กๆก็จะเริ่มศึกษาคริสตศาสนาที่โบสถ์ในเช้าวันอาทิตย์ จริงๆแล้วไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นเช้าวันอาทิตย์ก็ได้ค่ะ แต่ลูกชายของผู้เขียนได้เรียนเช้าวันอาทิตย์เป็นประจำเรื่อยมา การไปเรียนที่โบสถ์นี้ก็จะแบ่งชั้นเรียนเหมือนเวลาไปโรงเรียน แยกเป็นชั้นๆไป เด็กเล็กๆ ป.1-ป.2 อาจจะไม่เรียนทุกๆสัปดาห์ เริ่มด้วยการเล่น ร้องเพลง ทำกิจกรรมสนุกๆที่แทรกเรื่องของพระเยซูคริสต์เข้าไปในขณะเดียวกัน คุณครูที่สอนก็มักจะเป็นคนในชุมชน คนทำงานทั่วไป นักศึกษามหาวิทยาลัย หรือครูอาจารย์ที่อาสาสมัครมาสอน ลูกชายของผู้เขียนได้เรียนเช้าวันอาทิตย์ตลอดก็สะดวกมากเพราะว่าเรียนจบชม. ก็เข้าโบสถ์เพื่อฟังมิซซาต่อเลยค่ะ

ผู้เขียนคิดถึงสมัยตัวเองเป็นเด็กๆ จำได้ว่าเคยดูหนังฝรั่งที่ตอนเช้าวันอาทิตย์ชาวบ้านรวมทั้งเด็กๆก็จะต้องไปโบสถ์ ตอนนั้นมีความคิดแบบเด็กๆว่า โชคร้ายจัง ต้องถูกบังคับให้เข้าโบสถ์ในเช้าวันอาทิตย์ด้วย แทนที่จะได้นอนตื่นสาย หรือเล่นสนุกตามประสาเด็ก เมื่อมาใช้ชีวิตอยู่ในประเทศที่มีศาสนาคริสต์เป็นศาสนาหลัก ผู้เขียนจึงได้เห็นว่า ผู้คนเข้าโบสถ์กันเป็นกิจกรรมหลักอย่างหนึ่ง บางคนที่เคร่งมากก็จะไม่เคยขาด พ่อแม่สามีของผู้เขียนค่อนข้างเคร่งค่ะ เขาเข้าโบสถ์ด้วยความศรัทธา พวกเขาจะรู้สึกจิตใจเบ่งบานเมื่อไปฟังมิซซาในเช้าวันอาทิตย์ สามีของผู้เขียนเองนั้นไม่ได้เป็นนักปฏิบัติค่ะ เขาบอกว่า ศาสนา กะโบสถ์เป็นสองสิ่งที่แยกจากกัน คนที่เข้าโบสถ์อาจจะไม่ได้นับถือศาสนาอย่างจริงจัง และคนที่นับถือพระเจ้าอย่างจริงจังก็อาจจะไม่ได้เข้าโบสถ์ก็ได้ คนรุ่นใหม่ๆก็เข้าโบสถ์กันน้อยลงค่ะ อาจจะด้วยวิถีชีวิต ความรีบร้อน ชีวิตของคนรุ่นใหม่มักจะใช้เช้าวันอาทิตย์ในการนอนพักผ่อนให้มากๆซะมากกว่า แต่อย่างไรก็ดี ผู้เขียนก็คิดเห็นเหมือนกันค่ะว่าสำคัญที่จิตใจ หากเราไม่ได้เข้าวัดแต่ก็สามารถสวดมนต์อยู่ที่บ้าน และคิดดีทำดีตามหลักธรรมได้ ผู้เขียนนั้นถึงจะเป็นชาวพุทธ แต่ในหลายๆโอกาสก็จะเข้าโบสถ์ร่วมกะลูกชายและครอบครัวของสามีค่ะ

ลูกชายผู้เขียนเองบางครั้งก็จะมีอิดออดบ้างเมื่อถึงเช้าวันอาทิตย์แล้วไม่อยากออกไปเรียนที่โบสถ์ ผู้เขียนและสามีจะเลือกทางสายกลาง คือไม่บังคับกันจนเกินไป แต่ก็ไม่ให้ถึงกะหละหลวมมาก ถ้าครั้งไหนเขาไม่มีอารมณ์จะไปจริงๆก็จะผ่อนผันบ้าง พวกเราเชื่อว่าอะไรก็ตามที่ทำโดยการถูกบังคับ จะทำได้ไม่นาน และในที่สุดก็จะกลายเป็นความเบื่อหน่าย และความเกลียดเข้าให้ ขอให้เขารู้ถึงความพอดี และมีความรับผิดชอบในตัวเองตามวัย ผู้เขียนคิดว่าก็ใช้ได้แล้วค่ะ ยิ่งเรียนสูงขึ้นเรือ่ยๆการบ้านก็ยิ่งยากและเยอะขึ้นเรื่อยๆ ก็ย่อมมีบ้างที่บางครั้งเช้าวันอาทิตย์เขาอยากจะพักผ่อนทำอะไรตามใจชอบ