Posts Tagged ‘ ชาวต่างชาติ ’

สังคมศึกษาบนรถเมล์ ตอนที่3

ระหว่างนั่งรถประจำทาง นอกจากจะมองออกไปนอกหน้าต่างแล้ว ก็คงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะสังเกตผู้ร่วมเดินทางบนรถใช่ไหมคะ หลังจากที่ได้บรรยายถึงเด็กวัยรุ่น และผู้สุงวัยไปใน2ตอนที่แล้ว ผู้เขียนจะเล่าถึงกลุ่มคนหลากหลายเชื้อชาติบ้างค่ะ จังหวัด Piacenza จะไม่ใช่จังหวัดที่ใหญ่มากนัก แต่ก็มีชาวต่างชาติอาศัยอยู่หลายเชื้อชาติ ที่พบเจอเยอะที่สุดเห็นจะเป็นชาวยุโรปตะวันออก เช่นชาวโรมาเนีย และอัลบาเนีย ที่เข้ามาหางานทำในประเทสอิตาลี รองๆลงมาเห็นจะเป็นชาวอัฟริกัน ชาวอาหรับซึ่งน่าจะมีจำนวนมากพอๆกัน ชาวจีนก็เช่นกันค่ะ ชาวอาหรับและชาวจีนนี้ส่วนใหญ่ น่าจะเกือบทั้งหมด เข้ามาทำกิจการสร้างฐานะ เช่นเปิดร้านอาหาร ร้านขายของชำ มินิมาร์ต ซึ่งหลายปีหลังมานี้มีมากทวีคูณจากเมื่อก่อนอย่างเห็นได้ชัด ส่วนชาวฟิลิปปินส์ส่วนใหญ่จะทำงานด้านเซอร์วิส เป็นแม่บ้าน พี่เลี้ยงเด็ก และดูแลคนแก่ ชาวอินเดีย และญี่ปุ่นก็มีบ้างแต่ไม่เป็นกลุ่มเป็นก้อนนัก ส่วนคนไทยนั้นส่วนใหญ่จะเป็นแม่บ้านที่แต่งงานกับชาวอิตาเลียน ในเมืองใหญ่ๆและเมืองธุรกิจอย่างมิลานนั้น ชาวเอเชียเช่นญี่ปุ่น เกาหลีมาอยู่ที่นี่ด้วยหน้าที่การงานเยอะค่ะ เมือง Piacenza ที่ผู้เขียนอาศัยอยู่นี้ไม่ใช่เมืองธุรกิจ แต่เป็นเมืองกสิกรรม และอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดเล็ก

สิ่งที่ไม่ค่อยจะพึงประสงค์นักก็คือ ผู้โดยสารรถประจำทางชาวต่างชาตินั้นมักจะถูกมองด้วยสายตาไม่ค่อยดีนัก ก็ไม่ได้เป็นแบบนี้เสมอไปหรอกค่ะ แต่ก็บ่อยครั้งค่ะที่รู้สึกว่าผู้โดยสารชาวอิตาเลียนและคนขับรถเมล์เองก็ตามจะไม่ค่อยพอใจนักกะชาวต่างชาติ ตัวผู้เขียนเองนั้นมักจะพยายามทำตัวให้สำรวม ในเมื่อชาวต่างชาติก็มักจะถูกจัดให้เป็นพลเมืองชั้นที่2อยู่แล้ว เราเองก็ต้องพยายามให้คนอื่นมองเราในสายตาที่ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ เช่นแต่งตัวให้ดูดีมีบุคลิก สำรวมเรียบร้อย ผู้เขียนสังเกตมาตลอดว่า ผู้หญิงชาวอัฟริกันมักจะคุยโทรศัพท์ระหว่างทาง และไม่ควบคุมระดับเสียงของตนเอง จนเป็นที่รำคาญของผู้คนบนรถเมล์ คนขับรถเมล์เองบางทีก็ทนไม่ไหวจนลุกขึ้นมาต่อว่า ว่าคนอื่นน่ะเขาไม่ได้อยากรู้เรื่องของคุณหรอกนะ แต่ส่วนใหญ่หล่อนๆทั้งหลายก็จะยังคงคุยออกอารมณ์ต่อไปโดยไม่แคร์คนรอบข้าง แบบนี้ผู้เขียนเองก็ไม่ไหวเหมือนกันค่ะ ผู้ชายชาวอัฟริกันที่หอบหิ้วกระสอบใหญ่ๆบรรจุสินค้าที่เดินขาย หรือแบกะดินขายตามที่ต่างๆ

อย่างไรก็ดี ผู้เขียนก็ไม่ชอบใจที่คนขับรถเมล์บางคนก็ปฏิบัติตัวไม่ถูกต้องต่อผู้โดยสารต่างชาติ เพราะเหมารวมไปหมดว่าชาวต่างชาติมักจะโกงไม่ตอกตั๋วรถบ้างล่ะ หรือจัดว่าเป็นคนไม่มีการศึกษา ยากจนบ้างล่ะ การดูถูกคนต่างชาติแบบนี้ยังมีให้เห็นอยู่มากในประเทศอิตาลีนะคะ เคยพบเห็นด้วยตัวเองว่าถูกแกล้งเช่นจอดเลยป้าย มีอยู่ครั้งนึงผู้เขียนนั่งรถประจำทางไปทำธุระในตัวเมือง เมื่อใกล้จะถึงป้ายหน้าโรงพยาบาล มีชายหนุ่มผิวสีที่แขนมีผ้าพันคลอ้งที่คอไว้กดกริ่งเพื่อให้จอด แต่คนขับกลับไม่จอด ชายผู้นี้เกิดเดือดดาลจนวิ่งถลาไปหน้ารถ จับคอเสื้อคนขับรถกระชากขึ้นมาด้วยหน้าตาดุเดือดและด่าว่า เห็นไหมว่าคนเขามีแผลไม่สบาย ทำไมกดกริ่งแล้วไม่จอด เรียกได้ว่าตาต่อตาฟันต่อฟัน ผู้เขียนนั่งอยู่ช่วงกลางรถก็ตกใจเหมือนกันนะคะ ใจคอไม่ค่อยดีกลัวมีการต่อย ทิ่มแทงอะไรกันขึ้นมาล่ะ แย่แน่ๆเลย แต่ก็ไม่มีอะไรรุนแรงไปกว่านี้ค่ะ คนขับรถไม่กล้าต่อปากต่อคำ เปิดประตูรถให้ชายผู้นั้นลงรถไป ถึงแม้ว่าการขู่แบบนี้มันเกินไปหน่อยก็จริง แต่ว่าคนขับรถที่ชอบแกล้งชาวต่างชาตินี่ก็สมควรโดนดีบ้างเหมือนกันนะคะ โดยเฉพาะเวลาที่ผู้หญิงที่มีเด็กเล็ก มีรถเข็นเด็ก สองมือพัลวันกดกริ่งแล้วไม่ยอมจอดให้ตรงป้าย จงใจจอดเลยไปเยอะๆเหมือนตั้งใจแกล้งเพื่อความสะใจอะไรบางอย่าง มันก็น่าที่จะโดนขู่กระชากคอเสื้อแบบนั้นบ้างเหมือนกันค่ะ

การแบ่งแยกเชื้อชาติที่ประเทศอิตาลียังมีอยู่มากค่ะ มันสั่งสมมานานจนปลูกฝังต่อๆไปสู่รุ่นลูกหลาน จะไม่ให้เป็นอย่างนี้ได้อย่างไรในเมื่อเกมส์การเมืองก็มีการเน้นให้คนอิตาเลียนกีดกันชาวต่างชาติ ข่าวในทีวีก็มักโจมตีชาวต่างชาติ เนื่องจากว่าชาวต่างชาติที่เข้ามาแย่งงานและทำให้รัฐต้องมีรายจ่ายเพิ่มขึ้น ส่วนตัวผู้เขียนเองคิดว่าไม่สมควรมีการกีดกัน แต่ควรสร้างระดับการควบคุมแรงงาน และเอาจริงเอาจังกับกฏหมาย ใครทำผิดอะไรก็ปฏิบัติตามกม. ใครที่ทำงานสุจริตก็สมควรปล่อยให้เขาได้อยู่อย่างเท่าเทียมชาวอิตาเลียน คนอิตาเลียนเองที่ไปทำงานต่างประเทศก็มีอยู่ไม่น้อย ถ้าพวกเขาถูกรังเกลียดรังแก พวกเขาก็คงไม่พอใจในความไม่เป็นธรรมเหมือนกันใช่ไหมคะ แต่การเปิดใจกว้างนั้นคงจะยากมากพอสมควร ในเมื่อชาวอิตาเลียนด้วยกันเองยังแบ่งแยกระหว่างคนเหนือกะคนใต้ เรือ่งนี้เป็นเรือ่งละเอียดอ่อน ผู้เขียนคงจะไม่ต่อให้ยืดยาวเกินไป จบเรื่องเล่าบนรถเมล์แค่นี้ก่อนนะคะ