เล่าสู่กันฟัง จากอิตาลีถึงเมืองไทย

สวัสดีค่ะท่านผู้อ่าน

เห็นว่าบรรยากาศกำลังให้ โพสต์นี้ผู้เขียนก็เลยอยากจะเล่ารวบยอดการฉลองต่างๆของเดือนสำคัญ คือเดือนธันวาคม ไปจนถึงหลังปีใหม่ของชาวอิตาเลียนกันเลยนะคะ ผู้เขียนเองถึงไม่ใช่เด็กแล้ว แต่ก็โปรดเดือนธันวาคมนี้เป็นพิเศษค่ะ ถึงแม้อากาศจะหนาวเหน็บ และฟ้ามืดเร็ว (ความมืดค่อยๆมาตั้งแต่ยังไม่ 5 โมงเย็นเลยค่ะ) แต่ความคึกคักของการฉลองต่างๆนานานั้นทำให้รู้สึกจิตใจกระชุ่มกระชวย ช่วยขึ้นมาได้เยอะเลยค่ะ ตามถนนหนทาง ร้านค้า และบ้านอยู่อาศัยทั่วไปจะเริ่มประดับไฟกันตั้งแต่ต้นเดือน (แต่บางแห่งก็เริ่มเร็ว ตั้งแต่กลางๆหรือปลายๆเดือนพ.ย. แต่ผู้เขียนมีความเห็นว่าเร็วเกินไปหน่อย) ผู้คนออกมาซื้อหาของขวัญและเตรียมหาซื้ออาหารต่างๆ เจอะเจอคนรู้จักที่ไหนก็จะทักทายอวยพรกัน และเป็นโอกาสเหมาะที่ญาติหรือเพือ่นฝูงที่ไม่ได้เจอกันมานานก็ไปมาหาสู่กันเพื่ออวยพรคริสต์มาสและปีใหม่

ผู้เขียนรู้สึกว่าเด็กๆในปท.อิตาลีนี้ช่างโชคดีเสียจริง เพราะมีโอกาสได้รับของขวัญมากกว่าปท.อื่นๆโดยทั่วไปที่ฉลองเทศกาลคริสต์มาสเหมือนกัน เริ่มต้นจากวันที่ 13 ธ.ค. ของทุกปี เป็นวัน Santa Lucia (ซานต้า ลูเชีย) ตามความเชื่อ ซานต้าลูเชีย ซึ่งเป็นนักบุญหญิงตาบอดจะขี่ลามาแจกของขวัญให้เด็กดีทุกๆคน เด็กๆก็จะเขียนจม.ถึงซานต้าลูเชียเพื่อเล่าว่าตนเป็นเด็กดีอย่างไร และขอสิ่งที่อยากได้ในจม. หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นของเมือง Piacenza ที่ผู้เขียนอาศัยอยู่นั้น เปิดโอกาสให้เด็กๆส่งจม.เพื่อตีพิมพ์บนหน้านสพ.ทุกๆปี อ่านจม.ของเด็กๆแล้วได้รับความสนุกและเห็นความน่ารักซื่อใสของเด็กๆมากเลยค่ะ ประวัติของนักบุญหญิงผู้นี้ค่อนข้างเศร้า ตำนานเล่ามาว่า ณ เมือง Siracusa ในเกาะ Sardinia มีเด็กหญิงงดงาม บุตรีของเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดของแคว้นนั้น ชื่อว่า Lucia มาวันหนึ่ง พ่อของหญิงสาวต้องการให้เธอแต่งงานกับคู่สมรสที่เลือกไว้ให้แล้ว แต่หญิงสาวมีความมุ่งมั่นที่จะไม่แต่งงานและบำเพ็ญตนเพื่อคริสตศาสนาและพระเจ้าของเธอ แต่ทว่าพ่อของเธอไม่ยอมและต้องการให้เธอเปลี่ยนใจให้ได้ แต่เมือหญิงสาวไม่มีทางเปลี่ยนใจ เธอได้โดนควักตาทั้ง 2 ข้างและเสียชีวิตไป หลังจากนั้นมา จึงมีผู้สรรเสริญให้เธอเป็นนักบุญหญิง เป็นเทพผู้ปกป้องดวงตา และได้กำหนดวันฉลองในวันที่ 13ธ.ค. ของทุกปี

ภาพวาด Santa Lucia และลาของเธอ

ต่อจากนั้น ก็มาถึงการฉลองคริสต์มาส ทุกๆปีรร.จะเริ่มหยุดเรียนตั้งแต่วันคริสต์มาสอีฟไปจนถึงวันที่ 7 ม.ค. เรียกว่าหยุดยาวพักการเรียนคล้ายๆปิดเทอมเล็กของเมืองไทยเลยล่ะค่ะ คืนวันคริสต์มาสอีฟ คือวันที่ 24 ธ.ค. จะมีพิธีมิซซาในโบสถ์ทุกๆแห่ง โดยเริ่มตอนเที่ยงคืน ถือว่าเป็นพิธีมิซซาที่สำคัญที่สุดของปีก็ว่าได้ คือการฉลองการประสูติของพระเยซู และในคืนนี้เองที่ ซานตาคลอส หรือในภาษาอิตาเลียนเรียกว่า Babbo Natale จะเหาะโดยรถลากและกวางเรนเดียร์มาแจกของขวัญให้เด็กดีทุกๆคน เด็กๆก็จะเขียนจม.เป็นฉบับที่ 2 ขอสิ่งที่ตนอยากได้ และสัญญิงสัญญาว่าจะเป็นเด็กดีอย่างไร ลูกชายของผู้เขียนเองก็จะตั้งใจเขียนจม. ถึงซานต้าลูเชีย และซานตาคลอส เอาไปหยอดตู้ไปรษณีย์จนปีนี้ก็เลิกเขียนไปเพราะด้วยความที่เริ่มโตเป็นหนุ่มแล้ว เริ่มเลิกความเชื่อนี้แต่ก็เหมือนจะดีใจที่บอกว่าพ่อของผมเป็นซานตาคลอสที่เอาของขวัญมาให้ทุกปี

ซานต้าผู้ใจดีของเด็กๆทั่วโลก

ในบางท้องถิ่นจะฉลองมื้อคริสต์มาสในมื้อเย็นของวันที่ 24 แต่ว่าส่วนใหญ่แล้วจะฉลองกันในมื้อกลางวันของวันที่ 25 ครอบครัวของสามีผู้เขียนจะฉลองกันวันที่ 25 ค่ะ เป็นวันรวมญาติสนิท รวามครอบครัวใหญ่ก็ว่าได้ ทุกๆปีบ้านเราจะฉลองมื้อสำคัญนี้ด้วยกันโดยมีคุณลุงคนเดียวของสามีผู้เขียน และลูกชายของคุณลุงมาร่วมทานมื้อคริสต์มาสด้วยกันที่บ้านของผู้เขียน โดยมีแม่สามีเป็นแม่ครัวใหญ่ ผู้เขียนเป็นผู้ช่วย พ่อสามีและสามีเป็นคนจัดโต๊ะและเตรียมไวน์ เครือ่งดื่ม ครอบครัวเราเป็นครอบครัวไม่ใหญ่โต แต่ก็เป็นครอบครัวที่อบอุ่นและกันเองมากๆค่ะ

วันสิ้นปีและวันปีใหม่ก็จะมีการฉลองและเค้าท์ดาวน์กันเหมือนทั่วโลก เราจะรอเค้าท์ดาวน์เพื่อเปิดขวด sparkling wine (ไม่ถึงกะแชมเปญนะคะ มันหรูไป) ณ วินาทีที่เริ่มต้นปีใหม่ เราจะอวยพรกัน ชนแก้มกัน ครอบครัวผู้เขียนไม่ได้ไปเค้าท์ดาวน์กันนอกบ้าน หรือตามสถานที่ท่องเที่ยวหรอกค่ะ ทุกๆปีที่ผ่านมาก็จะฉลองกันเองเล็กๆในครอบครัว บางปีก็จะมีการซื้อพลุ ไฟเย็น อะไรมาจุดเล่นกันบ้าง แต่ก็เล็กๆน้อยๆไม่ค่อยนิยมการสิ้นเปลืองลักษณะนี้ค่ะ

พลุฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ที่คอลอสเซียม กรุงโรม

มาถึงงานปิดท้ายแล้วค่ะ ยังไม่หมดแค่นี้นะคะ สำหรับเด็กๆแล้วก่อนที่รร.จะเปิด วันที่ 6 ม.ค. ชาวคริสต์คงจะทราบดีว่าคือวันอะไร ซึ่งก็คือวัน Epiphany (ในภาษาอิตาเลียนคือ epifania) นั่นเอง เป็นวันฉลองการเสด็จมาของพระเยซูคริสต์ ผู้เขียนขอแปะเว็ปไซต์ที่อธิบายความสำคัญของวันนี้ไว้เป็นภาษาไทยตรงนี้นะคะ http://www.followhissteps.com/web_christianstories/abc05.html

มีประเพณีกันว่า ในคืนระหว่างวันที่ 5 และ 6 ของเดือน ม.ค. หญิงชราหน้าตาน่ากลัว จมูกเหมือนแม่มดแต่งตัวด้วยกระโปรงดำยาว และหมวกแม่มด เรียกว่า Befana ขี่ไม้กวาดวิเศษไปตามบ้านต่างๆ เพื่อที่จะหย่อนขนมหวาน หรือเถ้าถ่านจากปล่องไฟ เด็กดีก็จะได้รับขนม ลูกอมต่างๆ เด็กซนเด็กดื้อก็จะได้รับเถ้าถ่านแทน เด็กๆจะแขวนถุงเท้าไว้เพื่อรับขนม คุณพ่อคุณแม่คนไหนที่อยากจะแก้เผ็ดลูกที่ดื้อรั้นก็จะใส่ถ่านให้ซะเลย

ภาพการ์ตูนของ Befana แต่ในภาพนี้หน้าตาใจดีนะคะ

โพสต์นี้ดูจะยืดยาวไปสักนิดนะคะ พยายามเล่าที่มาที่ไปและประเพณีการฉอลงของชาวอิตาเลียนให้เพื่อนๆผู้อ่านที่อาจจะยังไม่เคยได้รู้มาก่อนได้นึกภาพตาม สุดท้ายนี้ก็ขอให้ผู้อ่านทุกท่านฉลองปีใหม่กันอย่างสนุกสนานกับญาติมิตรที่รักนะคะ